จ่ายุทธ คือใคร?
“ผมนายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ แถวคลองสามเค้าเรียกผมว่า จ่ายุทธ นะครับ” ในสมัยก่อนเมื่อปี พ.ศ.2535 ผมเป็นตำรวจจราจรอยู่ที่อำเภอคลองหลวง รับหน้าที่ดูแลการจราจรย่านตลาดบางขัน ก็ได้เจอกับท่านนายก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนมากมาย ซึ่งก็ต้องข้ามตรงจุดนี้ทุกวัน วันละเป็นพันคน แล้วก็ทำความรู้จักกัน ก็เริ่มมีมวลชน มีเพื่อนเยอะ หลังจากเป็นตำรวจอยู่ประมาณ 10 ปีครับ ก็อยากทำธุรกิจ ก็เริ่มมารับเหมา ถมที่ ทำถนน พอธุรกิจมันเริ่มเดินได้ ก็ลาออกจากตำรวจ แล้วมาเป็นนักธุรกิจอยู่ที่อำเภอคลองหลวงจนถึงทุกวันนี้ครับ”
ตั้งแต่ผมลาออกมา ก็มาทำอาชีพรับเหมานะครับ มีบ่อดิน มีเครื่องจักร วันนั้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อนผมก็คิดแล้วว่า ทำอย่างไรชาวบ้านเค้าจะได้ประโยชน์จากเราในอาชีพของเรา ผมก็เริ่มมีแจกถุงยังชีพ มีแจกเบี้ยเลี้ยงคนแก่ในหมู่บ้าน แจกของขวัญ แจกวันงานวันเกิด งานบวช ก็เลยเริ่มทำงานมวลชน บ้านไหนที่เขาฐานะดีหน่อยเราก็แจกถุงยังชีพ แพมเพิสคนแก่คนพิการ ตั้งแต่หมู่ 1 ถึงหมู่ 16 นี่แจกหมด ตอนนี้หมดไปประมาณ 4 พันถุงแล้ว แจกหมด ผมอยากช่วยชาวบ้านไปเรื่อยๆ แต่พอเป็นเคสที่ชาวบ้านเขายากจนนี่ก็เพิ่มปัจจัยเข้าไป อย่างบ้านละสองพันสามพัน เขาก็ได้มีกินมีอยู่ แต่ถ้าบ้านที่มันไม่ไหวจริงๆ ไม่มีกินจริงๆ ก็จะรับผิดชอบเป็นเดือนๆไป จนกว่าเขาจะมีลูกหลานที่โตมารับผิดชอบชีวิตเขาได้ คุณไม่ต้องตายถ้าเจอจ่ายุทธ ผมรับผิดชอบชีวิตคุณเอง

เส้นทางสู่การเมือง
ด้วยการเชิญของท่าน พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ชวนผมมาเป็นที่ปรึกษานายก คราวนี้พอผมมาทำงานกับท่านนายก ก็ยิ่งเห็นปัญหาของชาวบ้านมากมาย ผมก็อยากจะเป็นสื่อสัมพันธ์ในการสื่อสาร ก็เลยประสานกันว่าผมอยากจะมาดูแลเขตพื้นที่คลองสาม ท่านนายกก็เลยส่งมาแล้วก็เริ่มดำเนินกิจการของทางการเมือง วันนี้ผมอาจจะมีรายได้ที่ดี มีความสุขที่ดี แต่ผมก็ได้เห็นปัญหาความยากจน ตั้งแต่ผมเป็นวัยรุ่นมาจนถึงวันนี้ ยี่สิบสามสิบปีมาแล้ว ผมก็ช่วยคนมาโดยตลอด ทำทานเป็นสิ่งที่อยากทำมาตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าผมไปรับเหมาที่ไหน วัดหรือโรงเรียนอะไรต่างๆ บางจุดที่เขาไม่มีเงิน เราก็ทำให้ฟรีหมด บุญบารมีก็สะสมให้ตัวเรามีฐานะดีขึ้นเรื่อยๆ
สร้างสรรค์แบ่งปันสังคม
ณ.วันนี้เองท่านคำรณวิทย์ เอาตัวเองมาช่วยจังหวัดปทุมธานี ต้องการให้ปทุมธานีดีขึ้น คนดีขึ้น ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง ผมก็บอกว่าพี่ นโยบายนี้ผมเห็นด้วย ผมลงมาสัมผัสกับประชาชน ดังนั้นเลยประสานท่านนายก อบจ. กับนายก อบต.คลองสาม ท่านวีรศักดิ์ เอางบ อบจ.มาทำถนนหนทาง เพราะผมเชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้นได้นั้น การคมนาคม การสัญจร ถนนหนทาง ระบบน้ำ และระบบไฟแสงสว่าง เป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องที่ต้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนครับ
สำหรับเรื่องของคนลำบากยากจนเราก็ใช้เงินส่วนตัวของเรา คนที่ลำบากเราบอกพี่ไม่ต้องฆ่าตัวตายนะ เดี๋ยวผมให้เดือนละสามพันเลี้ยงหลานเลี้ยงลูกไป บางบ้านพิการทั้งพ่อทั้งแม่ ลูกสาวหนีเหลือแต่หลานไว้ ทั้งพาร์กินสัน ทั้งติดเตียง ผมก็รับอุปการะ ทุกสิ่งทุกอย่าง พอลงมาทำแล้วจิตใจเราอยากช่วยคน เคยเห็นน้ำตาของคนที่เขาสิ้นหวัง คนที่ท้อแท้ แล้วรู้สึกว่าอะไรที่เราพอช่วยได้เราต้องช่วย ผมอยากทำให้ชีวิตความเป็นอยู่พวกเขาดีขึ้นจริงๆ

แก้ปัญหาความทุกข์ยาก ฟื้นฟูจิตใจประชาชน
ผมเองเริ่มมาจากเงินเดือนไม่กี่พันของตำรวจ จนวันนี้เป็นนักธุรกิจใหญ่ ผมว่าไม่ได้โชคช่วย การทำทานหรือการทำบุญทำให้เราดีขึ้น วันนี้ถ้าเราเล่นการเมือง อะไรที่เราช่วยเขาได้ อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเราต้องส่งคืน ถ้าเราแบ่งกำไรของเราสิบหรือยี่สิบเปอร์เซนต์ไปช่วยชาวบ้านแล้วเราไม่จน แต่มันสามารถทำให้มีรอยยิ้มและมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยครอบครัว ความสุขของผมอยู่ตรงนั้นครับ
ผมเห็นคนพิการเยอะ คนแก่ คนป่วย คนติดเตียงเยอะ ก็เลยคิดว่าทำไงดี เพราะเตียงผู้ป่วยตัวหนึ่งก็ หมื่นห้า ถึง สองหมื่น วีลแชร์ตัวละห้าหกพัน คนที่มันจนที่มันลำบาก อย่าว่าแต่เงินเลยครับข้าวจะกินก็ไม่มี ก็เลยคิดโครงการไปเอาเตียงกับวีลแชร์พวกนี้มาให้เขายืม ซึ่งไม่ต้องไปซื้อมาเอาที่นี่ไป มาลงทะเบียนถ้าป่วยแล้วหายดีก็เอามาคืน วนเวียนกันใช้อย่างนี้ก็เป็นกิจกรรมที่ พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องไปเสียเงินเยอะ ใครต้องการเดี๋ยวเอาไปส่งเลย ... วันๆ ก็คิดแต่ช่วยเรื่องชาวบ้านแบบนี้แหละครับ สำหรับคนเป็นโควิด คนป่วย คนติดเตียง ก็เพิ่มโครงการแพมเพิสเข้าไป เพราะอะไรครับ จะซื้อทีถุงละสี่ร้อยห้าร้อย เอาเงินไว้ทานข้าวดีกว่า ตอนนี้มีโครงการใกล้ๆ นี้ จะแจกข้าวสารคนป่วยกับคนแก่ที่ติดเตียง เค้าจะได้เอาไปหุงข้าวทานกันครับ
วันนี้พอได้ลงพื้นที่เจอ อสม.ทุกหมู่ โดยท่านทุเรียน เป็นประธาน อสม.ทั้ง 16 หมู่ ก็มีความคิดต่างๆ เพราะ อสม.มีเงินเดือนแค่เจ็ดร้อยถึงพันบาท แต่ช่วยชาวบ้านมากมาย เพราะฉะนั้นจึงได้ทำการเลี้ยง อสม.ทั้งตำบล และก็แจกถุงปันสุขและแพมเพิสให้ไปแจกชาวบ้าน แล้วก็จัดซื้อเครื่องวัดความดันให้ทุกหมู่เอาไปใช้เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะถ้าความดันขึ้นสูง มันอาจถึงตายได้เพราะเส้นเลือดแตก ถ้าไม่มีเครื่องก็ไม่รู้ต้นเหตุว่าที่ท่านเจ็บป่วยเพราะอะไร ตอนนี้สั่งซื้อและได้เครื่องมาแล้ว พร้อมแจกให้ครบทุกหมู่
“นี่ก็เป็นสิ่งที่อยากให้ชาวบ้านเห็นว่า อะไรที่มันนิดหน่อย ใช้งบส่วนตัวซื้อได้ ก็จะทำให้เลย มันคงไม่จนมากกว่านี้ แต่ถ้าเห็นคนตาย 1 คน กับเงินเท่านี้ ผมว่าเราช่วยชาวบ้านดีกว่าครับ”

สนับสนุนทุนการศึกษา
เรื่องเด็กนักเรียน เรามีความรักและเอ็นดูเด็กนักเรียนอยู่แล้วนะครับ ยี่สิบปีมาแล้วนะครับผมเป็นคนนำจักรยานปีละ 12 ถึง 15 คัน ให้เด็กมาจับฉลากเพื่อขี่รถไปโรงเรียนกัน ทุกปีพอถึงวันเด็กเราเตรียมให้ทุกปีครับ ตั้งแต่ปี 40 จนถึงวันนี้ก็ยังให้ตลอด เพิ่มจุดไป ทุกหมู่บ้านที่ขอก็ให้ไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเมื่อมาอยู่ที่นี่มันมีเด็กยากจนเยอะ ผมจัดทุนให้ อบต.คลองสามไป อย่างโรงเรียนอนุบาลก็ปีละ 25 ทุน และไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ให้โรงเรียนบ้านบึงไปอีก 10 ทุน แล้วพอเจองาน อบต.สัญจรเคลื่อนที่คลองสามก็แจกทุนไปปีละ 2 ทุน 3 ทุน แจกทุนไปถามว่ามันไม่ได้มากไม่ได้น้อยแต่ก็ช่วยท่านบรรเทาความทุกข์ยาก วันหนึ่งเมื่อน้องๆมีความรู้ มีการศึกษาที่ดี น้องๆเหล่นนี้ก็จะเติบโต เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และเป็นประชากรที่ดีในชุมชนของพวกเราครับ

สร้างเยาวชนให้เป็นคนเก่งและดี
สำหรับเรื่องของกีฬา ส่วนใหญ่นะครับเรื่องกีฬาก็เป็นของเด็กวัยรุ่นนะครับ ท่าน พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง สั่งการมาว่าให้สนับสนุนกีฬาแทนยาเสพติด เพราะฉะนั้นในคลองสามก็จะมีชมรมกีฬาเยอะเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประชากรมาก มีวัยรุ่นมาก ทุกหมู่บ้านก็เลยต้องมีชมรมกีฬา ตอนนี้ได้ช่วยเสื้อ ช่วยถ้วยกีฬา ช่วยค่าข้าว ค่าน้ำ ช่วยเงินรางวัล และก็ช่วยทุน ประมาณสัก 10 โครงการแล้วในคลองสาม เพื่อป้องกันวัยรุ่นและเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด ลดอาชญากรรม และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชุมชมของพวกเรา

ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
ในตอนที่ผมมาลงพื้นที่ใหม่ๆ ในฐานะที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี ก็ไปเจองานลูกหนู ประเภณีแห่ลูกหนู ที่วัดหัตถสารเกษตร ตำบลคลองห้า พอไปดูแล้วก็คิดว่าทำไมประเภณีดีๆ ของคนไทยไม่ค่อยมีคนสนับสนุน ผมก็เลยจัดทีมงานไปเดินแห่ตั้งแต่บ้านท่านนายกธงชัยไปที่วัดโดยใช้คนประมาณ 200 กว่าคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้คนรู้ว่าประเภณีนี้น่าจะอยู่คู่กับจังหวัดปทุมธานีต่อไป จากกิจกรรมนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับจากชาวบ้านและประชาชนก็รู้สึกดีใจ อีกทั้งยังมีประเภณีแห่เทียนพรรษาที่วัดเกิดการอุดม โดยจัดขบวนรถแห่ นำขบวนผ่านหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเดินทางไปวัด ช่วยเสริมสร้างความรักความสามัคคีให้แก่ชุมชนของเรา เนื่องจากรถแห่ผ่านแต่ละหมู่บ้าน ก็จะมีประชาชนที่พบเห็นขบวนแห่ ไม่รู้ว่าถูกกันหรือไม่ถูกกัน ต่างก็ออกมารวมขบวน ร่วมร้อง ร่วมรำ พ่อมีพี่น้องในคลองสามมีความสนุกสนาน ซึ่งเป็นภาพที่เห็นแล้วมีความสุขกันมาก เมื่อมีคนร่วมกิจกรรมเยอะก็ต่อยอดเรื่องเงินทำบุญช่วยวัด และสิ่งสำคัญสุดคือเพิ่มความรักความสามัคคีในหมู่บ้าน และเพิ่มความสุขในชุมชนของพวกเรา